Home » ข้อผิดพลาดทางเทคนิคคอลเกี่ยวกับการดับเพลิงที่หลาย ๆ คนทำ

ข้อผิดพลาดทางเทคนิคคอลเกี่ยวกับการดับเพลิงที่หลาย ๆ คนทำ

by admin
7 views

การ ดับเพลิง เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความรู้และทักษะเฉพาะทางอย่างมาก การที่มีข้อผิดพลาดในการ ดับเพลิง อาจทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่จำเป็นหรือทำให้สถานการณ์แย่ลง ในบทความนี้จะนำเสนอ 10 ข้อผิดพลาดทางเทคนิคคอลเฉพาะเจาะจงที่พบได้บ่อยในการ ดับเพลิง และวิธีการป้องกันเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

การเลือกใช้หัวฉีดที่ไม่เหมาะสมกับประเภทของไฟ
หัวฉีด (nozzle) มีหลายประเภทและแต่ละประเภทออกแบบมาเพื่อการ ดับเพลิง ที่แตกต่างกัน การใช้หัวฉีดแรงดันสูงสำหรับไฟประเภท A (วัสดุทั่วไป เช่น ไม้ กระดาษ) แต่กลับใช้หัวฉีดแรงดันต่ำสำหรับไฟประเภท B (ของเหลวไวไฟ) จะทำให้ไม่สามารถตัดแหล่งเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกหัวฉีดที่ถูกต้องตามมาตรฐาน NFPA 1963 และการฝึกอบรมบุคลากรให้รู้จักและเข้าใจวิธีการเลือกหัวฉีดที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ

การตั้งค่าความดันของระบบสปริงเกอร์ไม่ถูกต้อง
การตั้งค่าความดันในระบบสปริงเกอร์ (sprinkler system) ไม่ถูกต้องสามารถทำให้ประสิทธิภาพการ ดับเพลิง ลดลงได้ เช่น การตั้งค่าความดันต่ำเกินไปทำให้น้ำไม่สามารถกระจายไปทั่วพื้นที่ที่ต้องการ หรือการตั้งค่าความดันสูงเกินไปทำให้น้ำถูกกระจายออกมาอย่างไม่ประสิทธิภาพ การตรวจสอบและตั้งค่าความดันที่เหมาะสมตามมาตรฐาน NFPA 13 จะช่วยให้ระบบสปริงเกอร์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในกรณีเกิดเพลิงไหม้

การใช้สารเคมีดับเพลิงที่ไม่เหมาะสมกับสารเคมีที่เป็นเชื้อเพลิง
สารเคมีดับเพลิงมีหลายประเภทและแต่ละประเภทเหมาะกับการ ดับเพลิง ที่แตกต่างกัน การใช้สารเคมีชนิด AFFF (Aqueous Film-Forming Foam) สำหรับไฟที่เกิดจากสารเคมีประเภท C (ไฟฟ้า) อาจทำให้เกิดการนำไฟฟ้าและเพิ่มความเสี่ยง การเลือกใช้สารเคมีที่เหมาะสม เช่น Halon 1301 สำหรับไฟประเภท C จะช่วยลดความเสี่ยงนี้ การฝึกอบรมและให้ความรู้เกี่ยวกับสารเคมีดับเพลิงตามมาตรฐาน NFPA 10 จะช่วยให้การดำเนินการ ดับเพลิง เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

การติดตั้งระบบป้องกันไฟที่ไม่ตรงตามมาตรฐาน
การติดตั้งระบบป้องกันไฟ เช่น ระบบ FM-200 หรือ Inergen โดยไม่ปฏิบัติตามมาตรฐาน NFPA 2001 อาจทำให้ระบบไม่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อเกิดเหตุ การติดตั้งหัวสปริงเกอร์ที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน NFPA 13 อาจทำให้การกระจายน้ำไม่ครอบคลุมพื้นที่ที่ต้องการ การตรวจสอบและยืนยันว่าการติดตั้งระบบป้องกันไฟเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการ ดับเพลิง

การไม่ทดสอบระบบดับเพลิงเป็นระยะตามกำหนด
การไม่ทดสอบระบบ ดับเพลิง เช่น ระบบสปริงเกอร์หรือระบบ CO2 เป็นระยะตามกำหนดอาจทำให้ไม่ทราบถึงความเสียหายหรือการทำงานที่ผิดพลาด การทดสอบระบบดับเพลิงตามระยะเวลาที่กำหนดโดย NFPA 25 จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าระบบพร้อมใช้งานเมื่อเกิดเหตุ การทดสอบรวมถึงการตรวจสอบความดัน การตรวจสอบการทำงานของหัวสปริงเกอร์ และการตรวจสอบระบบควบคุม

การไม่คำนึงถึงการแพร่กระจายของควันในระบบระบายอากาศ
การไม่คำนึงถึงการแพร่กระจายของควันในระบบระบายอากาศ (HVAC) อาจทำให้ควันแพร่กระจายไปยังพื้นที่อื่นและทำให้เกิดความเสี่ยงต่อชีวิต การติดตั้งระบบควบคุมควันและระบายอากาศตามมาตรฐาน NFPA 90A และการตรวจสอบระบบระบายอากาศเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการลัดวงจรของควันจะช่วยลดความเสี่ยงนี้ การติดตั้งระบบควบคุมแรงดันอากาศในอาคารเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของควันเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัย

การไม่ใช้สารเคมีเฉพาะทางในการดับเพลิงสารเคมีเฉพาะทาง
การ ดับเพลิง ที่เกิดจากสารเคมีเฉพาะทาง เช่น ไทเทเนียม หรือแมกนีเซียม โดยไม่ใช้สารเคมีเฉพาะทางเช่น Class D extinguishing agents อาจทำให้การ ดับเพลิง ไม่ได้ผลและเพิ่มความเสี่ยง การใช้สารเคมีเฉพาะทางสำหรับสารเคมีเหล่านี้ตามคำแนะนำของ NFPA 484 จะช่วยให้การ ดับเพลิง มีประสิทธิภาพ สารเคมีเช่น Dry Powder สำหรับแมกนีเซียม และ Copper Powder สำหรับไทเทเนียมเป็นตัวอย่างของสารเคมีที่ควรใช้

การไม่ตรวจสอบสภาพของหัวสปริงเกอร์หลังจากการทดสอบ
การไม่ตรวจสอบหัวสปริงเกอร์หลังจากการทดสอบ เช่น หัวสปริงเกอร์ที่มีคราบน้ำมัน หรือสิ่งสกปรกติดอยู่ อาจทำให้ไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้องเมื่อเกิดเหตุ การตรวจสอบและทำความสะอาดหัวสปริงเกอร์หลังการทดสอบทุกครั้งเป็นสิ่งจำเป็น การตรวจสอบการเปิดปิดวาล์วและการตรวจสอบการรั่วไหลของระบบเป็นส่วนหนึ่งของการบำรุงรักษาที่ควรทำ

การใช้ระบบสัญญาณเตือนที่ไม่ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมกับพื้นที่
การใช้ระบบสัญญาณเตือนที่ไม่ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมกับพื้นที่ เช่น การตั้งค่าเสียงสัญญาณเตือนที่ไม่ดังพอในพื้นที่ที่มีเสียงรบกวนมาก หรือการติดตั้งสัญญาณเตือนในตำแหน่งที่ไม่เห็นได้ชัด การปรับแต่งระบบสัญญาณเตือนให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและการตรวจสอบการทำงานอย่างสม่ำเสมอตามมาตรฐาน NFPA 72 จะช่วยให้การแจ้งเตือนเกิดขึ้นได้ทันท่วงที การใช้ระบบสัญญาณเตือนที่มีการเชื่อมต่อกับระบบการจัดการอาคาร (BMS) จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการเหตุการณ์

การไม่คำนึงถึงความเข้ากันได้ของสารเคมีดับเพลิงกับวัสดุที่ใช้อยู่ในพื้นที่
การไม่คำนึงถึงความเข้ากันได้ของสารเคมี ดับเพลิง กับวัสดุที่ใช้อยู่ในพื้นที่ เช่น การใช้สารเคมีที่ทำปฏิกิริยากับวัสดุโครงสร้างหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าในพื้นที่ การเลือกใช้สารเคมีที่มีความเข้ากันได้กับวัสดุที่ใช้อยู่ในพื้นที่ตามมาตรฐาน NFPA 704 จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์ การทำการทดสอบสารเคมีดับเพลิงกับวัสดุในพื้นที่ก่อนการติดตั้งระบบเป็นสิ่งที่ควรทำ

สรุป

การ ดับเพลิง เป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องการความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง การรู้จักข้อผิดพลาดที่มักเกิดขึ้นและการหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดเหล่านี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการ ดับเพลิง และลดความเสี่ยงในการเกิดความเสียหายและการสูญเสีย

สุดท้ายนี้ การเผชิญเหตุเพลิงไหม้เป็นสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพในหลายมิติ ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ซึ่งผลกระทบเหล่านี้อาจไม่ได้ปรากฏขึ้นในทันที แต่สามารถมีผลในระยะยาวได้ 

 

ติดต่อ

หากคุณสนใจบริการของเรา หรือต้องการปรึกษาเกี่ยวกับการปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

@2024 – All Right Reserved. Designed and Developed by ppegood